วิธีป้องกันอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
ออกกำลังกาย 12 ก.ย 66

วิธีป้องกันอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
การอบอุ่นร่างกาย (Warm up) ก่อนออกกำลังกาย และการยืดหรือคลายกล้ามเนื้อ (Stretching)
หลังออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถป้องกันอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี
“ระหว่างการอบอุ่นร่างกาย เลือดจะถูกส่งไปที่กล้ามเนื้อและสร้างความยืดหยุ่นให้กับเอ็นกล้ามเนื้อ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ร่างกาย”
“ส่วนการยืดหรือคลายกล้ามเนื้อก่อนและหลังการออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยลดการบาดเจ็บ โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายสามารถยืดกล้ามเนื้อได้มากขึ้น จึงควรใช้ช่วงเวลานี้ยืดเอ็นกล้ามเนื้อเพื่อให้พร้อมในการออกกำลังครั้งต่อไป”
การสวมเครื่องป้องกัน เช่น สนับเข่า สนับแข้ง หมวกกันน็อค สามารถป้องกันการบาดเจ็บได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ควรประมาท
เพราะเครื่องมือเหล่านี้ช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นวิธีป้องกันอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ควรทำเป็นประจำเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการทำกิจกรรมนั้น ๆ รวมทั้งควรป้องกันอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
การบาดเจ็บจากการออกกำลังกายเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เริ่มออกกำลังกายไปจนถึงนักกีฬาโอลิมปิกที่ฝึกฝนร่างกายมาเกือบตลอดชีวิต
การระวังตัวสามารถช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บได้อย่างมาก และเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ผู้ที่เล่นกีฬาควรปฏิบัติ ดังนี้
- เบสิกต้องมี
ควรมีความรู้พื้นฐาน และทักษะในการเล่นกีฬานั้นๆ เพื่อความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุต่างๆ
- วอร์มอัพแอนด์คูลดาวน์
ก่อนและหลังเล่นกีฬาทุกครั้งควรมีการยืดกล้ามเนื้อ ประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อสร้างกล้ามเนื้อต่างๆ ให้มีความยืดหยุ่นที่ดีพอ และมีความแข็งแรงทนทาน ช่วยป้องกันปัญหากล้ามเนื้อฉีกขาด หรืออักเสบ
- อาหารเพิ่มพลัง
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สารอาหารครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้ร่างกายมีพลังและลดอาการเหน็ดเหนื่อยได้ง่าย
- แต่งตัวให้เหมาะสม
ควรสวมชุดออกกำลังที่เหมาะสม ตลอดจนคำนึงถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น สถานที่ออกกำลังกาย อุปกรณ์การกีฬา รวมถึงสภาพอากาศก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
- เริ่มต้นช้าๆ
ให้เริ่มต้นอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความหนักหน่วง ระยะเวลา และความถี่ต่อสัปดาห์ เมื่อสภาพร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้น
- ดื่มน้ำไม่มากหรือน้อยเกินไป
เทคนิคในการดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย วิธีง่ายๆ คือ ดื่มน้ำ 250 มล. ก่อนออกกำลังกายประมาณ 20 – 30 นาที
จากนั้นดื่มน้ำอีก 250 มล. ทุกๆ 10 – 20 นาที ระหว่างออกกำลังกาย และดื่มน้ำ 500 มล. เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว
- ควรออกกำลังกายหลังรับประทานโดยรออย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- ควรสวมรองเท้าที่พอดีและเหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ
รวมทั้งใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่น เพื่อให้เคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก
- ควรอบอุ่นร่างกาย
ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายเบา ๆ ก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง
- ดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกายอยู่เสมอ
- ควรหมั่นสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวในกรณีที่ออกกำลังกลางแจ้ง
- ควรหยุดออกกำลังกายในกรณีที่รู้สึกแน่นหรือเจ็บหน้าอก คอ ไหล่ หรือแขน
รวมทั้งเกิดอาการเวียนศีรษะ มวนท้อง เหงื่อออก-ขณะที่ตัวเย็น เป็นตะคริว หรือเจ็บข้อต่อ เท้า ข้อเท้า และขา