รู้หรือไม่ Food Waste มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร?
ทั่วไป 28 ก.ย 68
รู้หรือไม่ Food Waste มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร?
เพื่อนๆ เคยคิดไหมว่าอาหารที่เรารับประทานเหลือทิ้งกลายเป็น ‘ขยะอาหาร’ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยแค่ไหน ?
Food Waste เป็นปัญหาในหลายประเทศที่กำลังเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19
กับมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้คนต้องกักตุนอาหารกันมากขึ้น ส่งผลให้อาหารเสื่อมสภาพจากการเก็บรักษา
ไม่ดี อาหารหมดอายุ รวมถึงขยะอาหารที่เหลือทิ้งจากมื้ออาหารของเราในแต่ละวัน
Food Waste เกิดขึ้นจากไหน?
การสูญเสียอาหาร (Food Loss) ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง การเก็บรักษา และการแปรรูป
หลังจากนั้นก็จะมีโอกาสเกิดเป็นขยะอาหาร (Food Waste) ในขั้นตอนการจัดจำหน่าย การบริการ และการบริโภค
ผลกระทบ Food Waste ต่อสิ่งแวดล้อม
ขยะอาหารทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 8% ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมโดยรวม
และทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ยังไม่นับรวมวิธีการฝังกลบเศษอาหาร ที่ส่งผลให้มีการตัดไม้ เพื่อขยายพื้นที่ในการฝังกลบ
Expired date และ Best before date
หลายคนเลือกที่จะทิ้งอาหารทันทีเมื่อเห็น Best before date เพราะความเข้าใจผิดคิดว่าอาหารหมดอายุ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดขยะจากเศษอาหาร
รวมถึงค่านิยมของคนไทยที่มักเลือกหยิบสินค้าจากชั้นวางของด้านในก่อน
เพราะอายุของอาหารจะนานกว่าสินค้าที่อยู่ด้านหน้า “First in First out” จึงนำไปสู่การเกิด Food Waste
นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังส่งผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจเป็นการลงทุนที่ไร้ประโยชน์
เส้นทางของขยะอาหาร
ขยะอาหาร หรือ Food Waste ขยะที่มีปัญหาอย่างมาก ไม่ว่าจะปัญหาในการจัดการที่ต้องใช้วิธีการที่ต่างออกไปจากขยะรูปแบบอื่น ๆ
เป็นขยะที่มาจากหลายแหล่งตั้งแต่ระดับบุคคล ครัวเรือน ร้านอาหาร จนถึงระดับอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่
- ระดับบุคคล เป็นระดับที่เล็กที่สุด ในกระบวนการก่อให้เกิดขยะอาหาร ส่วนใหญ่เกิดจากการที่เรารับประทานอาหารไม่หมดในแต่ละมื้อ
และนำไปเททิ้งลงถังขยะ หรือตามจุดบริการที่สถานที่นั้น ๆ กำหนดไว้
- ระดับครัวเรือน ขยะอาหารจากครัวเรือนเป็นอีกระดับที่ใหญ่ขึ้นมาจากบุคคล
ขยะอาหารจากครัวเรือนนั้นส่วนใหญ่มักเป็นเศษอาหารที่เกิดจากการทาน จากการทำกับข้าวเพื่อบริโภคในแต่ละวัน
- ระดับของร้านอาหาร เป็นระดับที่มีขนาดเล็กลงมาจากระดับอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นในการประกอบอาหารสำหรับจำหน่าย
ให้บริการแก่ผู้บริโภค เป็นจุดที่มีการรองรับขยะอาหารจากทั้งเหลือบริโภค และการผลิตของทางร้านเอง
- ระดับอุตสาหกรรมด้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีเป็นลักษณะโรงงานที่ต้องผลิตในอาหารออกมาเพื่อจำหน่ายในหลาย ๆ แหล่ง
ต่างก็ใช้วัตถุดิบที่เยอะ และหลากหลาย ทำให้ขยะอาหารที่มาจากโรงงานนั้นมีปริมาณที่ค่อนข้างเยอะกว่าหลาย ๆ ระดับก่อนหน้านี้
หลังจากรู้ที่มาของขยะอาหารแล้วนั้น การจัดการขยะอาหารนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะไม่สามารถจะเผาไหม้ได้เหมือนขยะประเภทอื่น ๆ
ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้เหมือนขยะพลาสติก ทำให้ขยะอาหารที่มีอยู่มากนั้น ไม่สามารถกำจัดได้อย่างถูกวิธี จนหลาย ๆ ครั้งก็ต้องขนไปทิ้งบางพื้นที่
พอนานวันเข้าก็ทำให้เกิดการสะสม ส่งกลิ่นเหม็น และส่งก๊าซพิษที่เกิดจากการเน่าเสียจนสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบเช่นกัน
ขยะอาหาร ทำไมกลายเป็นต้นเหตุของ “ภาวะโลกร้อน”
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าถ้าหากเกิดการสะสมของขยะอาหารในปริมาณที่เยอะ และเกิดการเน่าเสียในเวลาต่อมา
สิ่งที่ได้จากกระบวนการเน่าเสียนั้นก็คือ “ก๊าซเรือนกระจก” ก๊าซที่เกิดจากการสะสมของเสียประเภทสารอินทรีย์
และทำให้เกิดเป็นก๊าซมีเทนในลำดับถัดมา ซึ่งก๊าซเรือนกระจกนี่เอง ที่เป็นต้นเหตุให้เกิด “ภาวะโลกร้อน” มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ถึง 25 เท่า
แล้วจะลดขยะอาหารได้อย่างไรบ้าง ?
ระดับบุคคล และครัวเรือน
ระดับของบุคคล และครัวเรือน คือระดับที่เราสามารถเริ่มต้นการจัดการขยะอาหารได้แบบง่าย ๆ เพราะเป็นหน่วยขนาดเล็กที่สามารถควบคุมในเรื่องของขยะอาหาร
ได้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนจ่ายตลาด สำหรับวัตถุดิบทำอาหารให้พอดี การจัดเก็บอาหารให้ถูกวิธี การทำอาหารให้พอดีจะได้ไม่เหลือทิ้ง
รวมไปถึงการแปรรูปอาหารให้กลายเป็นเมนูใหม่ อย่างเช่นการแปรรูปผักที่เหลือ อาหารที่เหลือเป็น “แกงโฮะ” อาหารพื้นบ้านของภาคเหนือที่นับได้ว่าเป็นการจัดการเศษอาหารที่เหลือได้อย่างดี
เพราะแต่เดิม “แกงโฮะ” เองเป็นแกงที่นำอาหารที่เหลือในตู้มา เทรวมกันเติมผัก หรือเครื่องเคียงอื่น ๆ ที่ชอบ เป็นที่มาของคำว่า “โฮะ” ในภาษาเหนือที่แปลว่าเอามารวมกัน
ระดับร้านอาหาร จนถึงอุตสาหกรรมอาหาร
อุตสาหกรรมด้านอาหารก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารที่ถูกคัดทิ้งออกมา เนื่องจากหลาย ๆ ปัจจัยนั้นก็มักจะมีในปริมาณที่มาก และหลาย ๆ ครั้ง
ปัญหาขยะอาหารเองก็เกิดจากอุตสาหกรรมอาหารเช่นกัน ซึ่งในประเทศไทยเองก็ได้มีแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติฉบับที่ 11 ได้กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร
เพื่อผลักดันให้มีการจัดการขยะอาหารที่ถูกทิ้งให้มีปริมาณน้อยลง นอกจากนี้ในอุตสาหกรรมอาหารเองก็ต้องสร้างการตระหนักถึงคุณค่า และต้นทุนของวัตถุดิบเช่นกัน
โดยมีแนวทางในการจัดการกับขยะอาหารให้มีประสิทธิภาพ 5 ประการ คือ
1) การจัดการวัตถุดิบให้หมดไม่มีคงเหลือ
2) มีการวางแผนการประกอบอาหารให้พอดีกับความต้องการของผู้บริโภค
3) ลดปริมาณเศษอาหาร หรือเศษของเหลือจากวัตถุดิบที่ใช้ในการตกแต่งอาหารให้เหลือน้อยที่สุด
4) ตรวจสอบปริมาณวัตถุดิบที่คงเหลือในกระบวนการผลิตให้เกิดคุณค่า
5) สร้างจิตสำนึกการรับประทานอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้ง
เพียงแค่ 5 ขั้นตอนนี้ก็จะช่วยให้ขยะอาหารจากอุตสาหกรรมอาหารลดน้อยลง แถมยังได้ช่วยในการลดต้นทุนทางด้านการผลิตเช่นกัน


English


