เวย์โปรตีนคุณภาพสูง ยอดขายอันดับ 1 ของประเทศ | ติดตามเราบน

ภาษาไทย | English สมัครสมาชิก | เข้าสู่ระบบ

สูตรลดน้ำหนัก แบบไหนที่เหมาะกับคุณ



น้ำหนักตัวเยอะ ส่วนหนึ่งมาจากการกินอาหารที่มีแคลอรี่สูง จนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ จึงสะสมเป็นไขมันทำให้น้ำหนักเพิ่ม ก่อนหาสูตรลดน้ำหนัก มาลดน้ำหนัก ต้องสำรวจร่างกายก่อนว่า เหมาะกับสูตรลดน้ำหนักแบบไหนมากที่สุด


น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หลายคนมุ่งไปที่การควบคุมอาหาร “งด ลด เลิก” สรรหาสูตรลดน้ำหนักต่าง ๆ มาปรับใช้ แต่รู้มั้ยว่า สูตรการลดน้ำหนัก แต่ละรูปแบบ อาจแฝงมากับอันตรายที่ทำร้ายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว


3 สูตรลดน้ำหนัก ต้องศึกษาก่อนลงมือทำ



1. Ketogenic Diet หรือ สูตรการลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิค

สูตรลดน้ำหนักนี้ เน้นให้กินอาหารประเภทไขมันถึง 75% กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์เพียง 20% และอีก 5% ให้กินคาร์โบไฮเดรตจากผักต่าง ๆ เป็นการกินแบบ low-carb, high-fat (LCHF)

พอเห็นว่า ต้องกินไขมันมากถึง 75% อาจดูขัดแย้งกับพลังงานที่ได้รับ เราจึงต้องคุมปริมาณให้พอเหมาะ เมื่อจำกัดการกินคาร์โบไฮเดรตจนเหลือเพียง 5% ทำให้ร่างกายจำเป็นต้องหาแหล่งพลังงานอื่นมาใช้ นั่นก็คือไขมันที่เราได้รับในปริมาณมาก เมื่อกินไขมันมาก ๆ แต่ขาดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะคีโตสีส (Ketosis) คือ มีการดึงไขมันจากอาหาร และจากตับมาเป็นแหล่งพลังงานหลักในการดำรงชีวิต ซึ่งทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ตามร่างกายถูกดึงมาใช้ด้วย

และเหตุนี้เองน้ำหนักตัวจึงลดลงได้ ถึงไขมันที่สะสมในตามร่างกายจะลดลงนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าไขมันในหลอดเลือดจะลดลงตามด้วยไป ในทางกลับกันการกินไขมันในปริมาณมากย่อมเพิ่มโอกาสที่จะเกิดไขมันเลว (HDL) ในหลอดเลือดที่สูงขึ้น

อย่างคนที่มีน้ำหนักตัวน้อย หรือคนผอมที่มีไขมันตามร่างกายน้อย กลับมีไขมันในเลือดสูง ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งจากชนิดอาหาร และระบบการทำงานของร่างกายที่แตกต่างกันไปจากพันธุกรรม

การลดน้ำหนักด้วย Ketogenic Diet ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลิน ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ก่อนลดน้ำหนักด้วยสูตรนี้ จึงควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน



2. Paleo Diet หรือ “พาเลโอ ไดเอท”

สูตรลดน้ำหนักแบบมนุษย์ถ้ำ ต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร เพราะหลัก ๆ คือการกินเนื้อ (ถ้าจะให้เป็นมนุษย์ถ้ำ 100% ต้องใช้เนื้อของสัตว์ที่กินหญ้าเป็นอาหารเท่านั้น) โดยเน้นผลไม้ 50% อีก 25% จะเป็นผักและเนื้อสัตว์ ควรเป็นผักสด ผลไม้ (หวานน้อย) ถั่ว เมล็ดธัญพืช โดยไม่ปรุงที่ซับซ้อน งดปรุงอาหารด้วยน้ำตาล เกลือ ขนมปัง น้ำมัน การลดน้ำหนักสูตรนี้ ถือว่าดีที่สุดเลยก็ว่าได้



3. Atkins Diet หรือ การกินแบบแอตกินส์

เป็นสูตรการลดน้ำหนักที่ได้ผลดี คือการกินอาหารประเภทโปรตีนให้ได้ 80% อีก 20% ให้กินไขมันชนิดดี (HDL) กับคาร์โบไฮเดรตจากผัก-ผลไม้

กินแบบแอตกินส์ คล้ายการกินแบบคีโตเจนิค คือเป็นการกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อย เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะการผลิตอินซูลินน้อยลง ทำให้การสะสมไขมันเป็นไปได้ช้า และดึงพลังงานจากไขมันมาใช้มากขึ้น เพียงแต่แอตกินส์ จะใช้พลังงานจากโปรตีนเป็นหลัก

ถึงแม้สูตรแอตกินส์ ต้องกินโปรตีนมากถึง 80% อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารประเภทอื่น ๆ ประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารของลำไส้ลดลง มีภาวะท้องผูกเพราะได้รับไฟเบอร์น้อย จึงต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ และทวารหนัก อาการปากแห้งและการมีกลิ่นปากด้วย



4. Intermittent Fasting หรือการไดเอทแบบ IF

สูตรลดน้ำหนักนี้ สามารถกินได้ทุกอย่าง แต่ต้องกำหนดช่วงเวลาที่กินได้ เช่น IF 16/8 จะมีช่วงเวลาที่กินได้ 8 ชั่วโมง จากนั้นต้องอดอาหารยาวไป 16 ชั่วโมง โดยในช่วงเวลาที่อด ร่างกายจะเริ่มดึงไขมันมาใช้มากขึ้น

ไดเอทแบบ IF มักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสารอาหารไม่สมดุล เพราะยังกินทุกอย่างได้ตามปกติ แต่การอดอาหารนาน ๆ ในวันแรก อาจส่งผลให้ระดับอินซูลินลดลงจนร่างกายอ่อนล้า สมองทำงานช้าลง และรู้สึกหิวมากในบางที พอทำไปสักระยะหนึ่งร่างกายก็จะปรับตัว และสามารถดึงพลังงานสะสมมาใช้ได้คล่องขึ้น และการทำ IF สามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้สูงสุดถึง 14% เลยล่ะ

แต่ก็มีข้อเสียที่ควรระวังเช่นกัน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงบางอย่าง เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีปัญหาในการนอนหลับจนทำให้เสียสมดุลฮอร์โมน ส่วนผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนลดน้ำหนักสูตรนี้ เพื่อปรับขนาดยา และการฉีดอินซูลินให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการกิน และการอด


การลดน้ำหนักต้องอยู่บนพื้นฐานความพอดี ควรคิดไว้เสมอว่า การลดน้ำหนักอาจมีข้อเสีย มากกว่าข้อดี จึงควรเลือกสูตรลดน้ำหนัก และเช็คร่างกายก่อนว่า เหมาะสมกับสูตรลดน้ำหนักแบบไหน โดยที่ไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน และสุขภาพของตนเอง


ลดค่าน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
ป่วยบ่อยเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันลดลง
ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ถูกวิธีไม่มีโทรม!!

สนใจรับเคล็ดลับลดน้ำหนัก เพิ่มกล้าม เพิ่มเติมได้ที่

Facebook : WHEYWWL

Instagram : wheywwl

Twitter : WheyWWL Official

Youtube : WHEYWWL Official