เวย์โปรตีนคุณภาพสูง ยอดขายอันดับ 1 ของประเทศ | ติดตามเราบน

ภาษาไทย | English สมัครสมาชิก | เข้าสู่ระบบ

6 เทคนิคจิตวิทยาเพื่อลดความเครียดจากการทำงาน

สุขภาพ 10 ก.พ 67



6 เทคนิคจิตวิทยาเพื่อลดความเครียดจากการทำงาน

สาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดในที่ทำงานโดยมากมักมาจากเรื่อง

1 ปัญหาสัมพันธภาพ

ความสัมพันธในที่ทำงานที่ไม่ดีส่งผลทำให้คนทำงานเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว ดังนั้นการเชื่อมสัมพันธภาพในที่ทำงานจึงมีความสำคัญมากต่อคนทำงาน ทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในสังคมที่อยู่รอบตัว ทำให้เกิดการปรับตัว และมีการปรับสภาพอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น

2. ขาดการสนับสนุนจากหน่วยงาน

การที่พนักงานไม่ได้รับการอบรมก่อนเริ่มงาน หรือไม่มีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนจากหัวหน้างาน และหน้าที่และความรับผิดชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาย่อมทำให้เกิดความสับสนและความเครียดได้

ควรแก้ไขด้วยการระบุความชัดเจนในการงานและความรับผิดชอบ หรือควรสรรหาบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งและประสบการณ์เพื่อทำให้งานมีคุณภาพตามที่ต้องการ

3.งานล้นมือมากเกินไป

การทำงานที่หนักเป็นเวลานานเกิน8 ชม.ย่อมส่งผลต่อความเครียด หากเป็นแบบนี้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการจัดสมดุล work-life balance ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่ด้อยลง และส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

4. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหน่วยงาน

ช่วงเวลาที่องค์กรมีการเปลี่ยนแปลงนั้นมักทำให้คนทำงานเกิดความเครียดในการปรับตัวช่วงแรกๆ เสมอ ดังนั้นควรเตรียมตัวในการทำความเข้าใจและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง

5. สภาพแวดล้อมเป็นพิษ

การถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญซึ่งส่งผลต่อความเครียดและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคนทำงาน

6 งานไม่มีความมั่นคง

ปัจจัยด้านเศรษฐกิจมีผลต่อการอยู่รอดของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง สถานการณ์โรคระบาดโควิดทำให้เกิดการเลิกจ้างงานจำนวนมาก หรือบางบริษัทที่อยู่รอดก็เน้นให้พนักงานทำงานอยู่กับบ้าน ซึ่งเกิดความไม่สมดุล ไม่มีwork life balance เหมือนทำงานตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อความเครียดอย่างหนักในคนทำงาน

7. ขาดแรงจูงใน

การได้ค่าตอบแทนเพิ่มแต่ไม่ได้พักผ่อน อาจทำให้พนักงานเกิดความเครียดสะสม เบื่องานและขาดแรงจูงใจในการสู้งานต่อไป บริษัทอาจต้องพิจรณาแรงจูงใจที่ไม่ใช่ตัวเงินแต่อาจให้เวลาในการได้อยู่กับครอบครัว หรือสนับสนุนด้านการพัฒนาตนเองในการทำงานมากกว่ามุ่งแต่การแข่งขันทำกำไรเพียงอย่างเดียว


เทคนิคลดความเครียดจากการทำงาน

1. หากิจกรรมผ่อนคลายทำหลังเลิกงาน

หลังเลิกงาน ดูYoutube และเปิดฟังเพลงวนไป หรือเปิดแอปพลิเคชั่นเพื่อดูซีรี่ย์ ดูภาพภาพยนตร์โปรด เพื่อการผ่อนคลาย กิจกรรมเบา ๆ ที่ช่วยให้เราสงบจิตสงบใจลง เช่น ฟังเพลง เล่นโยคะ นั่งสมาธิ เล่นกับแมว ปลูกต้นไม้

2. หาคนที่ไว้ใจได้ระบายความไม่สบายใจ

เมื่อการงานมันหนักหนาจนเกิดความเครียด ลองบอกเล่าความในใจให้กับคนที่เราไว้ใจรับฟังดู ไม่ว่าจะเป็น คนรัก พ่อ แม่ เพื่อนสนิท พี่ น้อง ของเรา ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาในที่ทำงาน แต่เพียงเราเปิดใจเอ่ยปากเล่าความทุกข์ใจให้เขาคนนั้นฟัง ความเครียดจะเบาบางลงอย่างมหัศรรย์ แถมสมองยังปลอดโปร่ง และใจยังเย็นมากพอที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย

 3. ปรับสภาพแวดล้อมที่โต๊ะทำงาน

หากการมาทำงานเป็นการสร้างความเครียด ลองปรับสภาพแวดล้อมที่โต๊ะทำงานให้ถูกใจ เช่น นำตุ๊กตาที่ชอบมาวาง นำรูปคนในครอบครัว หรือนักแสดง หรือนักร้องที่ชื่นชอบมาติด เปลี่ยนรูปพักหน้าจอเป็นวิวสวย ๆ เปิดเพลงเบา ๆ ฟังระหว่างทำงาน หรือปลูกต้นไม้สวย ๆ ทีนี้การทำงาน ก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แถมยังลดความเครียดจากการทำงานลงไปอีกมาก

4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราเกิดความเครียดจากการทำงาน ก็คือ การมีศัตรูในที่ทำงาน ซึ่งจะทำให้เราประสานงานยาก เข้ากับทีมลำบาก อยู่ในวงการยากลำบาก ดังนั้น หากเรามุ่งสร้างกัลยาณมิตรในที่ทำงาน ใครต่อว่าหรือพูดจาไม่เข้าหูก็ยิ้มให้ พยายามเป็นมิตรกับทุกคน หรือถ้าบางคนที่สุดเกินจะรับจริง ๆ ก็ต่างคนต่างอยู่ การใช้ชีวิตในที่ทำงานของเราจะราบรื่นมากขึ้น

5. รักษาสมดุลชีวิตให้ “พอดี”

การจัดสรรสัดส่วนชีวิตแบบ Work Life Balance เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าทำได้จะช่วยรักษาสมดุลทั้งสุขภาพจิต สุขภาพกาย และรักษาคุณภาพความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีเพราะฉะนั้นแล้ว การรักษาความพอดีของสัดส่วนชีวิตจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องเข้มงวด เพื่อความสุขในระยะยาว

6. ปรับความคิดชีวิตเปลี่ยน

บางทีความเครียดจากการทำงาน ก็มาจากการที่เราคาดหวังกับตัวเองมากจนเกิดเป็นแรงกดดัน เพราะฉะนั้นหากลองปรับเปลี่ยนความคิดและมุมมองที่มีต่อตัวเราเอง และที่มีต่องาน เราจะสามารถปรับความคาดหวังของเราที่มีต่อการทำงานให้สอดคล้องกับความเป็นจริงได้มากขึ้น เราก็จะมองเห็นข้อดีของตัวเองในการทำงานมากยิ่งขึ้น


สนใจรับเคล็ดลับลดน้ำหนัก เพิ่มกล้าม เพิ่มเติมได้ที่

Facebook : WHEYWWL

Instagram : wheywwl

Twitter : WheyWWL Official

Youtube : WHEYWWL Official

บทความที่น่าสนใจ

เพิ่มเติม