“ผอม” แต่มีพุง เสี่ยงเป็นโรคร้ายมากกว่าคนอ้วน
ลดน้ำหนัก 21 ส.ค 63

คนอ้วนหลายคนมักอิจฉาคนผอม ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่รู้ไหมว่า!! คนผอม เสี่ยงเป็นโรคอันตรายต่างๆ มากกว่าคนอ้วนหลายเท่า โดยเฉพาะปัญหากวนใจ ที่แก้ไม่ตก นั่นคือ “ผอมแต่มีพุง”
“ผอม” แต่มีพุง (Skinny Fat) เป็นกลุ่มคนที่มีน้ำหนักโดยรวมไม่ได้เกินมาตรฐาน รูปร่างภายนอกมองเผินๆ ดูมีรูปร่างที่ดีสมส่วน ใบหน้า แขน ขาเล็กเพรียว แต่มีเฉพาะส่วนของท้อง หรือพุงที่บวมยื่น หรือป่องออกมาเล็กน้อย ไม่เรียบแบนสวยเหมือนคนที่มีหุ่นดีตามปกติ จึงกลายเป็นปัญหาว่า จะต้องทำอย่างไรเพื่อ “ลดพุง” ให้รูปร่างดี สุขภาพแข็งแรง
“ผอมแต่มีพุง” เกิดจากอะไร
คนที่มีรูปร่างผอม ทานเท่าไรก็ไม่อ้วน จึงเผลอตามใจปาก ทานอาหารหวานสารพัดอย่าง แต่จริงๆ แล้วอาหารหวานอย่าง ขนมปังเบเกอรี่ บิงซู ชานมไข่มุก ขนมไทยต่างๆ เป็นอาหารที่ทำให้เกิดไขมันสะสมที่ท้องได้ง่ายกว่าอาหารไขมันสูงเสียอีก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ก็ทำให้เกิดอาการท้องบวมท้องยื่นได้ โดยเฉพาะเครื่องดื่มอย่าง วิสกี้ เบียร์ ไวน์ วอดก้า หรือค็อกเทล เป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดการสะสมไขมันไว้ที่หน้าท้องได้มากเช่นกัน
สำหรับคนที่คิดว่า การลดพุง ต้องอดอาหาร ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องเสมอไป เพราะการอดอาหารกะทันหัน หรือทานอาหารน้อยเกินไป ไม่ได้ช่วยลดไขมันในร่างกายแต่อย่างใด แต่อาจจะทำให้ร่างกายไปดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อมาใช้แทน ทำให้กล้ามเนื้อฟีบเล็กลง ร่างกายขาดความแข็งแรงไปมากกว่าเดิมเสียอีก
ส่วนการออกกำลังกาย หากออกไม่ถูกวิธี เช่น การออกกำลังกายมากเกินไป บวกกับการรับประทานอาหารเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายน้อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายไปดึงพลังงานจากมวลกล้ามเนื้อมาใช้ในการออกกำลังกายแทนการดึงเอาไขมันส่วนเกินมาใช้นั่นเอง
วิธีลดพุง ต้องออกกำลังกายอย่างถูกวิธี
ถึงแม้เราจะเป็นคนผอม รูปร่างเพรียว น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามปกติแล้ว การออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรคือสิ่งสำคัญ แต่สำหรับคนที่ผอมแต่มีพุง ให้เน้นการออกกำลังกาย 2 รูปแบบ
เล่นเวท (weight training หรือ weight lifting)
การเน้นออกกำลังกายเฉพาะส่วน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากขึ้น หรือสามารถเล่นเวทได้ทั่วทั้งร่างกายโดยไม่ต้องเน้นที่ส่วนของหน้าท้องเพียงอย่างเดียวก็ได้ เช่น การยกดัมเบล ลูกตุ้มน้ำหนัก หากอยากเน้นหน้าท้อง สามารถออกท่ากายบริหารได้หลายอย่าง เช่น ทำท่านั่งเก้าอี้กลางอากาศ โดยเอาหลังพิงชิดผนังไว้ , นอนหงายแล้วยกขาลอยขึ้นจากพื้นทั้งสองข้าง หรือถือดัมเบล หรือลูกตุ้มน้ำหนักเอาไว้ที่อก แล้วย่อขาทั้งสองข้างขึ้นลง เป็นต้น
ออกกำลังกายด้วยวิธีคาร์ดิโอแบบ HIIT (High Intensity Interval Training)
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยเน้นการออกกำลังกายหนักสลับเบาในช่วงระยะเวลาที่กำหนด วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กับการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายไปด้วย เราสามารถหาวิดีโอสาธิตการออกกำลังกายแบบ HIIT แล้วออกกำลังกายตามไปด้วย เพื่อการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
แต่การออกกำลังกายแบบนี้ค่อนข้างหนัก สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย หรือแม้แต่คนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำก็ยังเหนื่อยหอบจนเกือบจะเป็นลมได้เช่นกัน ดังนั้น ควรออกกำลังกายในระยะเวลาที่ตัวเองพอไหว เริ่มต้นอาจจะออกกำลังกายแค่ 20 นาที แล้วค่อยๆ ไต่ความยากเพิ่มขึ้นเป็น 30 นาที เพื่อให้ร่างกายมีการปรับตัว และไม่ผืนตัวเองมากจนเกินไป ทั้งนี้ ยังต้องกำหนดจำนวนครั้งในการออกกำลังกายแบบ HIIT ไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และทำการซ่อมแซมกล้ามเนื้อบางส่วนที่ใช้งานอย่างหนักหน่วงนั่นเอง
ใครที่ไม่อยากให้กล้ามเนื้อซึกหรอ ต้องหาตัวช่วยอาหารเสริมเวย์โปรตีนบำรุง รักษามวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ยิ่งเราออกกำลังกาย จึงควรทานก่อนออก 30 นาที เพื่อเพิ่มพลังงาน ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น หรือดื่มหลังออกกำลังกาย 30 นาที เพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ป้องกันกล้ามเนื้อฉีกขาด ลดการบาดเจ็บให้น้อยที่สุด
“ผอมแต่มีพุง” ต้องทำตาม ดังนี้
นอกจากออกกำลังกายที่เหมาะสมแล้ว ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องนับแคลอรี่เหมือนกับคนที่อยากจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แต่เพียงแค่ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงลง เช่น เครื่องดื่ม และขนมหวาน รวมถึงคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ เช่น ข้าวขาว แป้งขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว แป้งพิซซ่า รวมไปถึงอาหารประเภททอด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พร้อมรับประทานอาหารประเภทโปรตีนให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงได้มากขึ้น เน้นการทานปลา ไข่ขาว เนื้อไก่ เป็นต้น หรือถ้าไม่มีเวลาหาวัตถุดิบที่มีโปรตีนสูง แนะนำรับประทานอาหารเสริมเวย์โปรตีน เพื่อทดแทนโปรตีนที่ขาดหายไป และเป็นโปรตีนที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย
ถึงอย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายจำเป็นต้องมีเทรนเนอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ หากมีข้อผิดพลาดตรงส่วนไหนจะได้แก้ไข และปรับตัวได้ทัน ที่สำคัญจะได้รู้ว่า มีส่วนที่ควรต้องเน้นมากกว่าเดิมหรือไม่ และสุดท้าย อย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะหากร่างกายอ่อนล้าเกินไป อาจก่อให้เกิดอาการเครียด อ่อนเพลีย ซึ่งเป็นสาเหตุของไขมันสะสมลงพุงได้