เวย์โปรตีนคุณภาพสูง ยอดขายอันดับ 1 ของประเทศ | ติดตามเราบน

ภาษาไทย | English สมัครสมาชิก | เข้าสู่ระบบ

ข้อดี ข้อเสียทุเรียน กินอย่างไรให้ปลอดภัย

ทั่วไป 19 พ.ค 65



ทุเรียนกรอบนอกนุ่มในรสหวานที่หลายคนชอบ หากกินในปริมาณมากเสี่ยงเป็นร้อนใน เป็นแผลในปาก เจ็บคอ ท้องผูก ถ้าอยากกินทุเรียนให้อร่อย และปลอดภัยเรามี 5 วิธีนี้แนะนำ


ทุเรียนในเมืองไทยมีหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น หมอนทอง ชะนี ก้านยาว ฯลฯ ในแต่ละสายพันธุ์จะให้คุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้ เนื้อทุเรียน 100 กรัม ประกอบด้วย พลังงาน 174 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม และยังมีเส้นใยอาหาร ไขมัน โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย



ทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ในเมืองไทยให้พลังงานเท่าไหร่บ้างมาดูกัน

ทุเรียนหมอนทอง 1/2 เม็ดขนาดกลาง

  • น้ำหนัก 40-100 กรัม
  • พลังงานประมาณ 163 กิโลแคลอรี
  • น้ำตาลประมาณ 21.3 กรัม หรือราว ๆ 5.3 ช้อนชา/1 เม็ด


ทุเรียนชะนี 100 กรัม (ราว 1 เม็ดขนาดใหญ่)

  • พลังงานประมาณ 148 กิโลแคลอรี
  • น้ำตาลประมาณ 7.7 กรัม หรือเกือบ ๆ 2 ช้อนชา


ทุเรียนก้านยาว 100 กรัม

  • พลังงานมากถึง 187 กิโลแคลอรี
  • น้ำตาลปริมาณ 12.9 กรัม



ทุเรียนจัดว่า เป็นผลไม้รสหวาน เผ็ด มีฤทธิ์ร้อน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • ช่วยบำรุงม้าม
  • เพิ่มชี่ (ลมปราณ)
  • บำรุงไต
  • เพิ่มหยาง เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย
  • มีเส้นในอาหารที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย
  • มีเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา
  • มีโฟเลต ที่ช่วยสร้างเม็ดเลือด
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมสภาพในเซลล์ของร่างกาย (หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม)
  • ทุเรียน เหมาะกับคนที่มีร่างกายอ่อนแอ เลือด หรือลมปราณน้อย

แต่ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้กินทุเรียนเพื่อหวังผลประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกาย เพราะประโยชน์ของทุเรียนมักมาพร้อมกับคาร์โบไฮเดรต น้ำตาลที่สูง ดังนั้น การกินทุเรียนมาก ๆ จึงให้โทษมากกว่าประโยชน์ เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน การบริโภคทุเรียนมากเกินไป ทำให้ร่างกายสะสมความร้อนมากเกินไป ส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น

  • ร้อนใน เป็นแผลในปาก
  • เจ็บคอ
  • ท้องผูก



กลุ่มคนที่ควรระมัดระวังในการกินทุเรียนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น
  • เบาหวาน เพราะทุเรียนมีน้ำตาลสูง อาจทำให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีพอ
  • ความดันโลหิตสูง ทุเรียนมีพลังงานสูง และมีฤทธิ์ร้อน อาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้
  • โรคไต ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง หากร่างกายขับโพแทสเซียมส่วนเกินออกไม่ทัน อาจทำให้ไตทำงานหนักเกินไป
  • หลอดเลือดหัวใจตีบ หากโพแทสเซียมจากทุเรียนสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
  • คนที่มีความต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ควรบริโภคทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป


สิ่งที่ไม่ควรกินร่วมกับทุเรียน
  • แอลกอฮอล์ อาจทำให้หน้าแดง ชา วิงเวียน หรืออาเจียนได้ เพราะอาหารทั้งคู่ให้พลังงานสูง จึงอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา เพราะอาจทำให้ปวดศีรษะได้
  • มังคุด อาจมีใครเคยได้ยินว่ามังคุดมีฤทธิ์เย็นที่ช่วยรักษาสมดุลให้กับร่างกายจากการกินทุเรียนที่มีฤทธิ์ร้อน แต่อันที่จริงทั้งทุเรียนและมังคุดต่างเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงทั้งคู่ ดังนั้นจึงไม่ควรกินคู่กัน และไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป


กินทุเรียนอย่างไร ให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ
  • ควรกินทุเรียนวันละไม่เกิน 2 เม็ดกลาง เนื่องจากการกินทุเรียน 4-6 เม็ด เทียบเท่ากับการดื่มน้ำอัดลมมากถึง 2 กระป๋อง หรือเทียบเท่ากับพลังงานทั้งหมด 400 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
  • ไม่ควรกินทุเรียนติดกันทุกมื้ออาหาร หรือทุกวัน เพราะจะทำให้ได้รับพลังงานมากเกินไป
  • เมื่อไรที่กินทุเรียน ควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต อาหารหวานจัด อาหารไขมันสูง อาหารมันจัด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวัน
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบหรือดัดแปลงจากทุเรียน ควบคู่ไปกับการกินทุเรียนสด เช่น ทุเรียนทอด ทุเรียนกวน ไอศกรีมรสทุเรียน

ถึงแม้ทุเรียนจะเย้ายวนแค่ไหน ก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ รู้กำลังและร่างกายตัวเองด้วยว่า กินในปริมาณเท่านี้ดีต่อสุขภาพหรือไม่ ที่สำคัญออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่กันไปด้วย เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงไปยาว ๆ


กินอาหารไม่คิด! เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง อันตรายถึงชีวิต
ลดน้ำหนัก งดข้าวเย็น สุขภาพเสียหนัก
สารอาหารที่ควรได้รับในวัย 20-60 ปี

สนใจรับเคล็ดลับลดน้ำหนัก เพิ่มกล้าม เพิ่มเติมได้ที่

Facebook : WHEYWWL

Instagram : wheywwl

Twitter : WheyWWL Official

Youtube : WHEYWWL Official

บทความที่น่าสนใจ

เพิ่มเติม