ระวัง!! แอลกอฮอล์เป็นพิษ ที่สายดริ่งค์ทุกคนควรรู้

แอลกอฮอล์ดื่มเพื่อความสุขทางใจ ปาร์ตี้ หรือแก้เหงากับกลุ่มเพื่อน บางคนดื่มแล้วมึนเมา บางคนดื่มแล้วคึกคัก หรือดื่มแล้วอาจจะง่วงนอน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ก็ควรระวังแอลกอฮอล์เป็นพิษ มีอาการผิดปกติต่อร่างกาย

แอลกอฮอล์เป็นพิษ คืออะไร

การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากและเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะตับซึ่งทำหน้าที่ขับแอลกอฮอล์ออกจากกระแสเลือด ไม่สามารถขับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายออกได้ทัน

อาการแอลกอฮอล์เป็นพิษ ไม่สามารถระบุระยะเวลาในการแสดงอาการที่ชัดเจนได้ และหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 12 ดื่มมาตรฐานในระยะเวลาอันสั้น หรือมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จะมีโอกาสเกิดภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษสูงมาก นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูดซึมสารของร่างกายแต่ละบุคคล และชนิดของเครื่องดื่มนั้น ๆ ว่ามีดีกรีหรือปริมาณแอลกอฮอล์เข้มข้นมากแค่ไหน เช่น

เบียร์ มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ประมาณ 5% จะมี 1 ดื่มมาตรฐานเท่ากับ 1 กระป๋อง หรือ 1 ขวดเล็ก 330 มิลลิลิตร
ไวน์ มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ประมาณ 12% จะมี 1 ดื่มมาตรฐานเท่ากับ 1 แก้ว หรือ 100 มิลลิลิตร
สุรากลั่น มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ประมาณ 40% จะมี 1 ดื่มมาตรฐานเท่ากับ 3 ฝา หรือ 30 มิลลิลิตร

เมื่อแอลกอฮอล์เป็นพิษ จะเกิดอาการแบบไหน!?

มีอาการกระวนกระวาย สับสน พูดจาไม่รู้เรื่อง
ไม่สามารถทรงตัวได้
ง่วงซึม นอนหลับเยอะกว่าปกติ
มีอาการกึ่งโคม่า รู้สึกตัวแต่ไม่สามารถตอบสนองได้
อาเจียนออกมาเป็นจำนวนมาก หรืออาเจียนเป็นเลือด
หายใจช้าลง หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
น้ำตาลในเลือดต่ำจนทำให้เกิดอาการชัก หรือเสียชีวิต
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อมีอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษ
ไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่ตามลำพัง เฝ้าสังเกตอาการของผู้ป่วยตลอดเวลา
พยายามปลุกให้ผู้ป่วยมีสติ ไม่หลับ และพยุงให้อยู่ในท่านั่ง
หากผู้ป่วยรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปเยอะ ๆ
ไม่พยายามให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมา เพราะอาจระคายเคืองทางเดินอาหารจนทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้
หากผู้ป่วยหมดสติ ไม่รู้สึกตัว ให้จับนอนตะแคง เฝ้าสังเกตการหายใจจนกว่าทีมกู้ชีพจะมาถึง
โทรเรียก 1669 หรือเรียกรถพยาบาลอย่างเร่งด่วน

สายดริงค์ สังสรรค์อย่างไรไม่ให้เมามาดูกัน

1. ไม่ปล่อยให้ท้องว่าง

ก่อนดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ควรกระตุ้นให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารได้เริ่มย่อยอย่างอื่นเสียก่อน ควรหาอะไรรองท้อง เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเมาเร็วเกินไป ที่สำคัญการกินอาหารก่อนการดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดปัญหาอาการท้องอืดด้วย

2. ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ก่อน

อย่างการเริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานก็ได้ เป็นทางเลือกที่จะรับน้ำเข้าสู่ร่างกายก่อนจะดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ร่างกายมีการดูดซึมน้ำเพื่อไปเจือจางฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้คุณไม่เมาเร็วจนเกินไป

3. ไม่ควรกินของหวาน

เพราะการกินของหวานในขณะที่ดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งทำให้คุณเมาเร็วขึ้นกว่าเดิม แนะนำไปเลือกขนมขบเคี้ยวหรือกับแกล้มที่มีรสเค็มและเปรี้ยวแทน เพื่อให้ตัดกับรสชาติของแอลกอฮอล์

4. รู้จักลิมิตตัวเอง

สายดริงค์ทุกท่านควรรู้ เพราะลิมิตในการดื่มแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนดื่ม 1 แก้วเมา ดื่ม 2 แก้วหลับปุ๋ย เพราะฉะนั้น ควรเลือกดื่มอย่างฉลาดและประมาณตนรู้ลิมิตของตนเอง และที่สำคัญต้องศึกษาระดับแอลกอฮอล์แต่ละประเภทให้ดี และไม่ควรฝืนตัวเองมากเกินไป