ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ควบคุมความดัน และน้ำตาลในเลือด
สุขภาพ 29 ก.ค 65
มีวิธีลดน้ำหนักมากกว่า 10 กิโลกรัม ลดพุง ลดโรค แถมยังช่วยควบคุมความดันโลหิต และระดับน้ำตาลเลือดให้เป็นปกติได้ กับ 5 ข้อที่ควรทำในทุก ๆ เช้า เป็นวิธีการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย และได้ผลจริง
5 วิธีลดน้ำหนักทุกเช้า เห็นผลเร็ว และปลอดภัย
- ตั้งนาฬิกาปลุกทุกเช้า
การตื่นนอนให้ตรงเวลาในทุก ๆ วันเป็นการปรับนาฬิกาชีวิตในร่างกาย ทำให้ร่างกายจดจำเวลาที่เราตื่น และเริ่มต้นทำการเผาผลาญพลังงานหลังจากที่ลดการเผาผลาญลงในช่วงเวลานอน หากเราตื่นนอนไม่ตรงเวลา ร่างกายอาจไม่สามารถเริ่มต้นเผาผลาญพลังงานในเวลาที่ควรจะเป็นได้
ไม่เพียงตื่นนอนให้ตรงเวลาเท่านั้น ควรเข้านอนให้ตรงเวลาด้วย เพราะจริง ๆ แล้วร่างกายของเราสัมพันธ์กับพระอาทิตย์ขึ้น - ตกเป็นหลัก ร่างกายจะปรับฮอร์โมนให้ทำงานตามเวลานั้น ๆ ทั้งฮอร์โมนเครียด ฮอร์โมนหิว ฮอร์โมนกระตุ้นระบบเผาผลาญ ฮอร์โมนเร่งระบบเผาผลาญ ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว ทั้งหมดนี้จะทำงานได้อย่างเป็นปกติ ดังนั้น เราลดน้ำหนักอย่างได้ผลได้ง่าย ๆ เพียงเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลา เวลาที่เหมาะสมคือ นอนช่วง 22.00 - 06.00 น. จะทำให้เป็นคนที่ไม่อ้วนง่ายด้วย
- หลังตื่นนอน ดื่มน้ำทันที
หลังตื่นนอนควรดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องทันที โดยประมาณ 300 มล. การดื่มน้ำเป็นการกระตุ้นร่างกายให้เริ่มทำงาน และทำให้ร่างกายเริ่มมีการเผาผลาญพลังงานเกิดขึ้น ที่สำคัญเป็นการเติมน้ำให้กับร่างกาย หลังจากที่ร่างกายขนาดน้ำขณะนอนหลับมาหลายชั่วโมง
- ดื่มกาแฟดำ หรือชาร้อน เพิ่มการเผาผลาญ
การดื่มกาแฟดำ หรือชาร้อนในตอนเช้า ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกาย เพราะในกาแฟดำและชาร้อนมีคาเฟอีน คาเทชิน สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ และเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ให้พลังงาน เหมาะสำหรับคนที่กำลังทำ IF หรือ Intermittent Fasting แล้วการดื่มกาแฟที่มีกลิ่นหอม ๆ ช่วยทำให้ร่างกายมีความสดชื่นมายิ่งขึ้น
- ออกกำลังกายในตอนเช้า (ตอนที่ท้องว่าง)
การตื่นเช้า ทำให้เรามีเวลาในการออกกำลังกาย แนะนำให้ออกกำลังกายช่วงที่ท้องกำลังว่าง จะทำให้เราเผาผลาญพลังงานมากกว่าปกติถึง 2 เท่า โดยเน้นเวทเทรนนิ่ง หรือ HIIT (ออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา) ออกกำลังกายไม่มากและไม่น้อยเกินไป แต่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวัน เพราะกล้ามเนื้ออาจจะยังไม่ทันได้ซ่อมแซม และหากได้ออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือในที่ ๆ ผิวได้สัมผัสกับแสงแดด ยิ่งช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นเป็น 2 เท่า และช่วยเพิ่มความตื่นตัวได้ด้วย
- รวมมื้ออาหาร มื้อเช้า+มื้อเที่ยง
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ แต่เราสามารถรวบมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงเป็นมื้อเดียวกันได้ สามารถกินตอนเวลา 10-11 โมง เพื่อยืดเวลาในการอดมื้ออาหาร หรือการทำ IF นั่นเอง ฉะนั้น การกินเพียง 2 มื้อต่อวัน ต้องกินในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสม เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดแป้งและอาหารที่มีไขมันสูง เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ ต้องกินโปรตีนและผักผลไม้ให้เพียงพอด้วย
ลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง
การเริ่มลดน้ำหนักใหม่ ๆ หลายคนอาจทำไม่เห็นผล หรือถอดใจก่อนที่จะเห็นผลลัพธ์ ซึ่งปัจจัยการลดน้ำหนักขึ้นอยู่กับจิตใจ ที่ต้องมีความมุ่งมั่น แน่วแน่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย โดยการลดน้ำหนักที่ถูกต้องประกอบด้วย
- การควบคุมอาหาร
- การออกกำลังกาย
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
- ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ
- ตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนัก
อย่าใจร้อนในการลดน้ำหนัก ควรลดน้ำหนักลงอย่างช้า ๆ และลดลงเพียง 5-10 % ของน้ำหนักตั้งต้นก็เพียงพอแล้วที่จะลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ที่มากับความอ้วน การลดลงสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม คือมาตรฐานที่ดีที่สุด และควรระลึกไว้ให้สนิทใจว่า ตราบใดที่น้ำหนักลดลงเร็ว เช่น 1-2 กิโลกรัม/สัปดาห์ น้ำหนักก็ยิ่งดีดกลับขึ้นเร็วเท่านั้น และมากกว่าเดิม หรือที่เรียกว่า โยโย่ แถมยังเพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วยถึง 10%
ลดน้ำหนักไม่ควรพึ่งยา เนื่องจากร่างกายบางคนมีผลการตอบสนองที่แตกต่างกัน การกินยาลดน้ำหนักอาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เช่น
- ปากแห้ง คอแห้ง ดื่มน้ำเข้าไปก็ไม่หาย
- กินอาหารไม่อร่อย ลิ้นไม่รับรู้รสชาติ หรือลิ้นรับรสชาติแปลก ๆ ไปจากปกติ
- เวียนศีษะ เบลอ มึนงงคล้ายคนเมา
- ปวดศีรษะรุนแรง
- รู้สึกคลื่นไส้ อยากอาเจียนตลอดเวลา
- ท้องผูก ระบบขับถ่ายแปรปรวน
- นอนไม่หลับ ไม่สบายตัว
- มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
เพราะฉะนั้น เริ่มต้นลดน้ำหนักต้องปรับพฤติกรรมตัวเอง คุมอาหารให้เป็น เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายเร่งการเผาผลาญบ้าง เพื่อลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย และมีสุขภาพที่แข็งแรง
กินอาหารครบ 5 หมู่ ประกอบด้วยอะไรบ้าง
กินอาหารใส่กัญชา เป็นอันตรายไหม!?
เทคนิคลดน้ำหนักยอดนิยม ของสาวญี่ปุ่น