สุขภาพจิตวัยทำงาน
สุขภาพ 9 ธ.ค 66
สุขภาพจิตวัยทำงาน
- “สุขภาพจิต” เป็นประเด็นปัญหาที่พบมากขึ้นในวัยทำงาน ถือเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและสูญเสียอันดับต้น ๆ ทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิตในวัยทำงาน ได้แก่ ความเครียดจากงาน สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
การไม่มีสมดุลงานและชีวิต Work-life Balance และความไม่ลงตัวระหว่าง ความคาดหวังในงานและอำนาจการควบคุมงาน
ปัญหาสุขภาพจิตจากงาน ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ดังนี้
- แบบฉับพลัน: ความเครียด ความวิตกกังวล ความรู้สึกเศร้า ความอยากอาหารลดลง การเผาผลาญในร่างกายผิดปกติ
- แบบเรื้อรัง: ภาวะหมดไฟ (Burnout) ระดับภูมิคุ้มกันลดลง ความต้องการทางเพศลดลง ความดันโลหิตสูง ตลอดจนความผิดปกติทางจิต
การจัดการดูแลสุขภาพจิตในที่ทำงานที่ดี ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีส่วนบุคคล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และประหยัดค่าใช้จ่ายขององค์กรในระยะยาว
โดยต้องอาศัยความร่วมมือ จาก นายจ้าง พนักงาน และบุคลากรทางการแพทย์ ดังนี้
1. ลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียด
2. ปรับปรุงการสื่อสารในที่ทำงาน พัฒนาการทำงานเป็นทีม
3. จัดสถานที่ทำงานและสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม
4. ส่งเสริมให้ผู้บริหารสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
5. ให้ความรู้พนักงานเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพจิต
6. ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ
7. ดูแลใส่ใจพนักงานที่ประสบปัญหาสุขภาพจิตอย่างเหมาะสม
การสร้างและบำรุงสุขภาพจิตในช่วงวัยทำงาน
1.การสร้างและบำรุงสุขภาพจิตในช่วงวัยทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
เนื่องจากการทำงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจสามารถมีผลต่อความสุขและความเป็นเอกลักษณ์ของบุคคลในชีวิตประจำวันได้
2.สร้างสภาพแวดล้อมทำงานที่เป็นกำลังใจ พยายามสร้างบรรยากาศที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจในที่ทำงาน
สร้างความสนใจในการทำงานและส่งเสริมให้คนอื่นรู้สึกเกี่ยวข้องและมีส่วนร่วม
3.ดูแลสุขภาพทางกาย การดูแลสุขภาพทางกายจะมีผลต่อสุขภาพจิต
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเครียด เพิ่มพลังงานและสร้างความเป็นมาตรฐานทางกายภาพที่ดี
4.สร้างความสมดุลในชีวิต ความสมดุลในชีวิตระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ ควรกำหนดเวลาให้เพียงพอสำหรับการพักผ่อน
การทำกิจกรรมที่เพื่อสร้างความสุขและความพึงพอใจในชีวิตส่วนตัว เช่น การเรียนรู้งานใหม่ การท่องเที่ยว การพบปะเพื่อนฝูง เป็นต้น
5.การบริหารจัดการเวลา การวางแผนและบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
กำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมและแบ่งเวลาให้เหมาะสมระหว่างการทำงานและการพักผ่อน
6.พัฒนาทักษะทางอารมณ์ การพัฒนาทักษะทางอารมณ์ช่วยให้เรามีความสามารถในการจัดการกับความกังวล ความเครียด และสถานการณ์ที่ซับซ้อน
การฝึกฝนทักษะดังกล่าวเช่นการจัดการความเครียด การตัดสินใจที่ถูกต้องและการแก้ไขปัญหาสามารถช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีกว่า
7.รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง เช่น ครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน
เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสุขภาพจิตที่ดี การพบปะเพื่อน การแบ่งปันประสบการณ์ และการช่วยเหลือผู้อื่นที่ต้องการสามารถช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
8.การพบปะและสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ หากมีปัญหาทางจิตใจที่รุนแรงหรือส่งผลกระทบต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน
ควรพบปะและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวช เช่น นักจิตวิทยา นักสุขภาพจิต หรือทีมงานด้านสุขภาพจิต