รู้หรือไม่ ? “อาการหนาวใน” สัญญาณเตือนความผิดปกติในผู้หญิง?
สุขภาพ 11 มิ.ย 68

เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว! แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่วัน หรือ หนาวเป็นบางวันสลับกับอากาศร้อน
แต่สำหรับคุณผู้หญิงบางคนอาจต้องผจญกับ “อาการหนาวใน”
โรคชนิดหนึ่งที่พบมากในผู้หญิงหลังคลอดที่ไม่ได้อยู่ไฟ ผู้สูงอายุที่กำลังหมดประจำเดือน
หรือหมดประจำเดือนแล้ว และผู้หญิงที่ประจำเดือนมาผิดปกติ ฯลฯ
อาการหนาวในเบื้องต้น
บางคนบอกว่าหนาวจนเข้ากระดูก แค่ฝนมืดครึ้มมาก็หนาวแล้ว
คือมีอาการหนาวสั่นสะท้านเข้ากระดูก มือเท้าเย็น ปากเขียว มือเขียว เหมือนเลือดไหลเวียนไม่ดี
และเมื่อมีอาการหนาวในเป็นประจำจะทำให้เกิดอาการปวดหลังชาๆ ขัดข้อสะโพก มีจ้ำเขียวตามร่างกายได้ง่าย
เป็นไข้ทับระดูทุกครั้งที่มีประจำเดือน มีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว
ซึ่งอาการหนาวในนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด แต่อาจจะต้องเช็กให้ดีก่อนว่า อาการหนาวในที่คุณรู้สึกนี้
หนาวเพราะป่วยไข้, อากาศเย็น, หนาวเพราะลมแรงจากเมฆฝน หรือหนาวที่มาพร้อมกับอาการผิดปกติบางอย่าง เช่น
1. ผอมบางต่ำกว่ามาตรฐาน
2. ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
3. ขาดธาตุเหล็ก
4. ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
5. โรคเรย์นอยด์
6. พักผ่อนไม่เพียงพอ
7. ดื่มน้ำน้อยเกินไป
8. ขาดวิตามินบี 12
9. โรคเบาหวาน
10. กล้ามเนื้ออ่อนแอเกินไป
ซึ่งจะมีอาการหนาวในเข้ามาประกอบด้วยเสมอ
4 ขั้นตอน แก้อาการหนาวใน เบื้องต้น
- การปรับสมดุลธาตุด้วยสมุนไพรจำพวก เหง้าขิง รากเจตมูลเพลิง ดีปลี รากช้าพลู และเถาสะค้าน ไพล ขมิ้นอ้อย
มีทั้งแบบต้มดื่มหรืออาบ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์แผนโบราณ
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกกินไขมันดีจากพืช วิตามินบี12 ก็จำเป็น และหากมีภาวะเลือดจาง
ต้องเน้นอาหารประเภทธาตุเหล็กสูง เลือกกินผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน หรือเลือกกินสมุนไพร เช่น บัวบก หรือ พริกไทย เป็นต้น
- การใช้ ยาสตรีที่มีส่วนผสมของว่านชักมดลูก ตังกุย เอี๊ยะบ่อเช่า เพื่อช่วยบำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ช่วยขับเลือดเสีย หรือประจำเดือน ออกจากร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการฟอกเลือด บำรุงเลือดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อีกด้วย
- หากเกิดอาการหนาวสั่นที่ผิดปกติ หรือเข้าข่ายอาการของโรคร้าย ควรเข้าพบแพทย์