โรคเครียด ทำร้ายเสียสุขภาพ ปัญหาที่ไม่ควรละเลย
สุขภาพ 29 ก.ย 64
ความเครียด มีผลกระทบต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน หากเราเกิดความเครียดบ่อยครั้ง จะส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตใจได้ ต้องหาทางผ่อนคลายความเครียด เพื่อเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา
โรคเครียด
เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ ทุกช่วงวัย และทุกที่ทุกเวลา เมื่อ เรารู้สึกว่าต้องเผชิญหน้ากับความเครียด เฉียบพลัน ซึ่งอาจมีเหตุการณ์ที่เกิดทบกระเทือนจิตใจ โดย จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ในด้านลบ หรือที่เราเรียกกันว่าความทุกข์ ซึ่ง ส่งผลให้ ร่างกาย หลั่งสาร ฮอร์โมนความเครียด และอาจแสดงอาการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย
โดยความเครียดส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้
1. ระบบประสาทส่วนกลางและต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่ ตอบสนองต่อฮอร์โมนความเครียด และกระตุ้นการเต้นของ หัวใจ
2. ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด เพราะฮอร์โมนความเครียด ส่งผลให้หายใจลำบาก และทำให้สูบฉีดของเลือด หายใจเร็วขึ้น และหลอดเลือด กล้ามเนื้อหดตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงได้
3. ระบบทางเดินอาหาร ฮอร์โมนความเครียด ส่งผลต่อร่างกายทำให้ระบบย่อยอาหารแย่ลง ซึ่งอาจพบอาการต่าง ๆ ได้ ดังนี้
- คลื่นไส้
- ปวดท้อง
- เสียดท้อง
- ท้องผูก
- ท้องเสีย
และกรดไหลย้อน หรือที่เราเรียกกันว่า เครียดลงกะเพาะ ซึ่งเกิดจากความเครียดสะสมทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น และอาจทำให้เสี่ยงเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
4. ระบบสืบพันธุ์ เพราะความเครียดที่สะสมมาอย่างยาวนานอาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศชาย ทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง
5. กล้ามเนื้อและกระดูก เมื่อร่างกายมีความเครียด ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึง และกระตุ้นปฏิกิริยาต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น น้ำหนักลดลง ปวดศีรษะแบบตึงเครียด ปวดศีรษะแบบไมเกรน อาจส่งผลไปถึงบริเวณไหล่คอ ศรีษะ และส่งผลให้ ปวดกล้ามเนื้อ กระดูกบริเวณหลังส่วนล่าง และส่วนบน ที่อาจเกิดจากความเครียด จากการทำงาน
6. ระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อมีความเครียดสะสมส่งผลให้ระบบคุ้มกัน ของร่างกายลดลง ซึ่งอาจทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย
วิธีขจัดความเครียดด้วยตัวเอง
1. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยลดความเครียดได้ เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง
2. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอ จะสามารถช่วยฟื้นฟูตัวเองจากเหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเครียดได้
3. จัดหางานอดิเรก อาจจะใช้เวลาว่าง ในชีวิตประจำวัน ทำกิจกรรมที่สนใจ เช่น ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือกิจกรรมอื่นๆที่สนใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบำบัดความเครียดได้เช่นกัน
4. ใช้เวลากับคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย เมื่อได้ใช้กิจกรรมร่วกัน เช่น ดูหนังด้วยกัน ทำอาหารด้วยกัน และกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถทำร่วมกันได้
5. ให้ธรรมชาติบำบัด จะช่วยบรรเทาความเครียดสะสมได้ เช่น การไปเที่ยวตามสถานี่ท่องเยวต่าง ๆ ในธรรมชาติ อย่าง ทะเล ภูเขา หรือที่เรียกกันว่า ให้ธรรมชาติบำบัด นั้นเอง
6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ดังนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มคาเฟอีน หรือ หลีกเลี่ยงพฤติกรรม ที่บีบให้เราเกิดความเครียด
7. หาสิ่งที่อยากเรียนรู้ และทำฝึกสมาธิ อย่างสม่ำเสมอ
8. เขียนไดอารี่ เป็นอีกหนึ่งวิธีดีปลดปล่อย หรือระบายอารมณ์ ลงสู่หน้ากระดาษ และเป็นวิธีที่ ส่วนตัวที่สุด
9. ให้กลิ่นหอมเข้าช่วย เช่น กลิ่นหอมของดอกไม้ จะช่วยทำให้ระบบประสาทสัมผัสรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว ผ่อนคลาย และยัง กระตุ้นพลังงานบวก
อาหารบรรเทาความเครียด
เป็นอีกหนึ่งวิธี ขจัดความเครียดด้วยตนเองเช่นกัน เพียงรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพ และลดความเสี่ยงของโรคเครียดได้ เช่น การทานดาร์กช็อกโกแลต ทุกวันจะช่วยลดฮอร์โมนความเครียด เพราะในช็อกโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสาร เพิ่มความสุขให้กับร่างกาย หรืออะดีนารีน และอาหารเพิ่มสุขต่าง ๆ ดังนี้
1. ชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่นิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ ที่อุดมไปด้วย L- theanine ซึ่งมีคุณสมบัติในการคลายเครียด
2. มันเทศ มีสารอาหารสูง และแร่ธาตุซึ่งช่วยปรับสมดุล ทำให้ผ่อนคลาย และอารมณ์ดี
3. ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลซาร์ดีน ปลาเหล่านี้ อุดมไปด้วย ไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินD ที่ช่วยป้องกัน หรือควบคุม ฮอร์โมนความเครียดพุ่งสูงและปรับ อารมณ์ของเรา
4. ไข่ มีสารอาหาร ที่ผลิตอะซิติลโคลีน ที่มีผลต่อสมอง รับหน้าที่ ควบคุมอารมณ์และความเครียด
5. ข้าวกล้อง มีวิตามิน B หลายชนิดที่มีความสำคัญต่อการ ผลิตสารแห่งความสุข และยังมีหน้าที่ ในการควบคุมความหิว และอารมณ์ เป็นต้น
6. หอย เช่น หอยแมงภู่ หอยนางรม หอยเหล่านี้มีกรดอะมิโนสูง และมีคุณสมบัติในการกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขได้
7. เมล็ดทานตะวัน มีงานวิจัยพบว่า พบกรดอะมิโนที่กระตุ้นสารการ หลั่งสารในสมอง ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย
8. โยเกิร์ต เป็นอาหารที่มีกรดไบโอติก ที่ช่วยบรรเทาความเครียดและความกดดัน
หากทราบถึง ภัยอันตรายจากโรคเครียดแล้ว ถือว่าโรคเครียด ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก เพราะ ความเครียดทำให้ เกิดโรคแทรกซ้อนได้อย่างมากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด รวมไปถึงโลกซึมเศร้า
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ทั้งในเรื่องของระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราสามารถป้องกันตัวเองจะโรคเครียดได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือ การหางานอดิเรกต่างๆ ทำไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง รวมไปถึง การทำสวน หรือสิ่งต่างๆ ที่เราสนใจ และอีกหนึ่งวิธีที่จะมาช่วยบรรเทาความเครียด คืออาหาร ที่สามารถหาได้ง่าย เช่น มันเทศ โยเกิร์ต ข้าวกล้อง และชาเขียว
“โปรตีน” สารอาหารหลักของร่างกาย!
ประโยชน์เน้นๆ ของ L-CARNITINE
ลดน้ำหนัก 5 โล ใน 1 สัปดาห์ ทำได้จริง!?