ไขมัน มีความจำเป็นต่อร่างกาย!!
สุขภาพ 9 ธ.ค 64

ไขมัน มีความจำเป็น และมีหน้าที่สำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกาย แต่ควรมีปริมาณไขมันภายในร่างกายอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อเลี่ยงไขมันอุดตันในเส้นเลือด
หน้าที่ของไขมัน
- ป้องกันการย่อยสลายโปรตีนที่มีอยู่ในร่างกายเพื่อนำไปใช้
- ช่วยดูดซึมวิตามิน A D E และ K
- เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อประสาท
- ช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ และมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันอวัยวะภายในช่องท้อง และหน้าอก
- ให้พลังงานแก่ร่างกาย
- รักษาความอบอุ่นให้ร่างกาย
สถานที่ฟิตเนสหลายแห่ง มักมีเครื่องชั่งน้ำหนักเพื่อวัดองค์ประกอบร่างกาย จากความต้านทานไฟฟ้าที่บอกปริมาณไขมันในร่างกาย ซึ่งเครื่องชั่งประเภทนี้ใช้ในการตรวจสอบว่า ร่างกายมีปริมาณไขมันเท่าไร โดยดูจากเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย หรือ Body Fat Percentage เป็นเกณฑ์
เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย คือสัดส่วนไขมันในร่างกาย
ยกตัวอย่าง คนที่น้ำหนัก 60 กก. มีไขมันในร่างกาย 20% เท่ากับมีไขมันหนัก 12 กก. (โดยใช้เครื่องวัด) เมื่อออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน จะมีผลต่อระดับเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย แต่ไขมันจะลดลงหรือไม่!! ขึ้นอยู่กับการใช้กล้ามเนื้อในลักษณะต่าง ๆ เช่น นักเต้น นักกรีฑา และนางแบบ เป็นต้น
- ผู้หญิงและผู้ชาย มีปริมาณไขมันที่แตกต่างกัน
- ผู้ชายมักจะมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากกว่าผู้หญิง
- ผู้หญิงมักมีไขมันสะสมบริเวณสะโพก และต้นขามากกว่าผู้ชาย
ไขมันสะสมในร่างกาย มีความจำเป็นต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากไขมันมีความจำเป็นต่อระบบการเจริญพันธุ์ หรือการตั้งครรภ์ในผู้หญิง ดังนั้น เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย จึงเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินองค์ประกอบร่างกาย และสุขภาพ เพื่อใช้ในการกำหนดเป้าหมาย และทิศทางในการออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการกำหนดแนวทางโภชนาการที่เหมาะสมได้อีกด้วย
การวัดสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย
- ชาย 30% ขึ้นไป หญิง 40% ขึ้นไป
เป็นปริมาณไขมันมากในระดับวิกฤต คนกลุ่มนี้มักมีรูปร่างอ้วนกลม มองเห็นเซลลูไลต์บนผิวหนังได้ชัดเจน มีไขมันส่วนเกินกระจายอยู่ทุกส่วนของร่างกาย
- ชาย 21-30% หญิง 31-40%
ถือว่ายังมีปริมาณไขมันส่วนเกินในร่างกาย มักมีรูปร่างท้วม มีชั้นไขมันหนาหุ้มกล้ามเนื้ออยู่
- ชาย 13-20% หญิง 23-30%
มีปริมาณไขมันตามมาตรฐานทั่วไป กลุ่มนี้มีรูปร่างสมส่วน สุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี มีสัดส่วนของร่างกายชัดเจน แต่อาจยังไม่เห็นกล้ามเนื้อมากนัก
- ชาย 9-12% หญิง 19-22%
เป็นกลุ่มที่มีปริมาณไขมันน้อย รูปร่างเพรียวกระชับ กล้ามเนื้อชัดเจน ผู้ชายที่ขยันออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้อง จะเห็นซิกแพ็คชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
- ชาย 5-8% หญิง 15-18%
เป็นกลุ่มที่มีปริมาณไขมันน้อยมาก รูปร่างเพรียวบาง เห็นกล้ามเนื้อชัดเจน แต่ถ้าออกกำลังเพิ่มกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง จะเป็นซิกแพ็คได้ชัดเจน ส่วนผู้ชายมีไขมันน้อยกว่า 5% หญิงน้อยกว่า 15% ถึงขั้นวิกฤต รูปร่างผอมติดกระดูก อันตรายต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย
ปริมาณไขมันในร่างกาย เป็นองค์ประกอบหนึ่ง ที่ช่วยย้ำเตือนและส่งสัญญาณให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และมีไขมันในปริมาณที่เหมาะสม ควรหมั่นออกกำลังกายที่ถูกวิธี โดยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้แนะนำท่าออกกำลังกายต่าง ๆ ตามรูปร่างและสุขภาพของตนเอง
สำหรับคนที่มีไขมันในเส้นเลือดสูง ควรทำอย่างไร
ไขมันในเส้นเลือดสูง 95% ต้นเหตุมากจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ของทอด ของมัน ของหวาน ส่วนอีก 5% ที่เหลือมาจากโรคร้าย (เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคต่อมไทรอยด์ทำงานบกพร่อง) ส่วนใครที่ไม่มีพฤติกรรมการกินที่ก่อให้เกิดคอเลสเตอรอลสูง อาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย หรือมีโรคร้ายบางอย่าง การลดคอเลสเตอรอลไม่จำเป็นต้องเลิกกินอาหารที่คุณชอบ เพียงแต่เพิ่มอาหารที่ช่วยต้านการเกิดคอเลสเตอรอล และมีฤทธิ์ในการลดไขมันเหล่านี้ จะช่วยลดโอกาสเป็นโรคร้ายแรงได้
- อะโวคาโด
เป็นผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูงเป็นอันดับ 1 โดยเปรียบเทียบต่อน้ำหนัก 100 กรัม กับบรรดาผลไม้ชนิดอื่น ๆ เช่น กล้วย ทุเรียน เป็นต้น
ธาตุโพแทสเซียม มีฤทธิ์ช่วยต้าน และลดไขมันในเส้นเลือด ลดไขมันชนิดเลว (LDL) ลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ หนึ่งในต้นเหตุสำคัญของโรคความดันโลหิตสูง ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต อีกทั้ง ในอะโวคาโดยังมีไขมันชนิดดีที่ค้นพบโดยแพทย์นักวิจัย ที่มีชื่อว่า “ไขมันมูฟ่า-MUFA” เป็นไขมันไม่อิ่มตัวพันธะเดี่ยว – MonoUnsaturated Fatty Acid ที่มีหน้าที่ช่วยลดไขมันเลว LDL ในเลือด และเพิ่มปริมาณไขมันดี HDL ในเลือด
อะโวคาโด มีปริมาณไฟเบอร์ที่สูงมาก ๆ ทำให้รู้สึกอิ่มท้อง อุดมไปด้วยสารอาหาร แนะนำให้กินวันละ ½ - 1 ลูก มีวิตามิน K สูง ไม่เหมาะกับผู้ป่วยผ่าตัด
- กระเทียม
เป็นสมุนไพรที่ได้การยอมรับทั่วโลก จนได้ขึ้นชื่อว่า เป็นราชาแห่งสมุนไพรหลอดเลือด ซึ่งในกระเทียมมีสาร “อัลลิซิน” ที่มีฤทธิ์ช่วยป้องกัน และช่วยสลายไขมัน คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ในหลอดเลือด และมีฤทธิ์ช่วยป้องกันคอเลสเตอรอลที่จะเกิดใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ
- น้ำมันมะพร้าว
นิยมใช้เป็นอาหาร โดยแพทย์แนะนำให้กับผู้ป่วยที่ต้องมีการควบคุม และป้องกันสุขภาพ อย่างโรคไขมันในเส้นเลือด คอเลสเตอรอลสูง เบาหวาน หัวใจ โดยน้ำมันมะพร้าวจะเข้าไปช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) และไปลดไขมันชนิดเลว (LDL) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคดังกล่าว
น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันที่แตกต่างจากนั้นมันชนิดอื่น ๆ โดยแทนที่ร่างกายจะเปลี่ยนไขมันที่ได้รับเป็นไขมันสะสมในร่างกาย น้ำมันมะพร้าวกลับช่วยให้การเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักลดน้อยลง กระชับสัดส่วน
เพราะฉะนั้น ใครที่ตกอยู่สภาวะไขมันในเลือดสูง มีไขมันสะสมเยอะ หรือรูปร่างอ้วน ก่อนที่จะดูแลสุขภาพด้วยตนเอง ควรตรวจสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อตั้งรับปัญหาอย่างถูกวิธี และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ อย่ากังวลเรื่องไขมัน แต่ควรคิดว่า ต่อไปควรดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นอย่างไรมากกว่า
สูตรลดน้ำหนัก แบบไหนที่เหมาะกับคุณ
ป่วยบ่อยเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันลดลง
ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ถูกวิธีไม่มีโทรม!!