ภาวะเลือดจาง เมนูที่ควรกิน-เมนูที่ควรเลี่ยง ลดอันตราย
สุขภาพ 2 ก.ย 65
เลือดจาง เกิดจากการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ควรกินอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และโฟเลต (Folate) เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล ถั่วและเมล็ดพืช อาจช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดให้แข็งแรง ป้องกันภาวะเลือดจางเนื่องจากขาดโฟเลตได้
ภาวะโลหิตจาง คืออะไร?
ภาวะโลหิตจาง (Anemia) หรือภาวะซีด คือ ภาวะที่มีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ ทำให้ผลิตออกซิเจนได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายมีอาการผิดปกติ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย มักพบได้บ่อยในบุคคลทั่วไป โดยอาการแสดงอาจมากหรือน้อยแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับเม็ดเลือดแดงในร่างกาย และความสามารถในการปรับตัวต่อภาวะโลหิตจางของแต่ละคน
เช็คลิส!! คุณเสี่ยงเป็นภาวะโลหิตจางหรือไม่?
- เบื่ออาหาร
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- ตัวซีดเหลือง อย่างเห็นได้ชัด
- หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
- หายใจลำบากขณะออกแรง
- มึนงง วิงเวียนศีรษะ
- เจ็บหน้าอก ใจสั่น
- หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้หัวใจล้มเหลว
- หากมีอาการเรื้อรัง อาจพบอาการมุมปากเปื่อย เล็บมีลักษณะอ่อนแอและแบน หรือเล็บเงยขึ้นมีแอ่งตรงกลางคล้ายช้อน
เลือดจางควรกินอะไร
- อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด เช่น เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะ
- เครื่องใน เช่น หัวใจ ไต ลิ้นวัว ตับ อุดมไปด้วยเหล็ก และโฟเลตที่ช่วยป้องกันภาวะเลือดจาง
- อาหารทะเลสด และอาหารทะเลกระป๋อง เช่น หอยนางรม หอยเชลล์ หอยแครง ปู กุ้ง ปลาทูน่า ปลาทู แซลมอน ปลาซาร์ดีน อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ ผักกูด ถั่วฝักยาว ผักแว่น เห็ดฟาง พริกหวาน ใบแมงลัก ใบกะเพรา ผักปวยเล้ง อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และโฟเลต ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด และป้องกันภาวะเลือดจางเนื่องจากการขาดโฟเลต
- ถั่วและเมล็ดพืช เช่น เมล็ดฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน ถั่วพิสตาชิโอ อัลมอนด์ ถั่วชิกพี ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง อุดมไปด้วยเหล็กที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด
เลือดจางควรหลีกเลี่ยงกินอะไรบ้าง
- ชา กาแฟ นมและผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด
- อาหารที่มีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) เช่น ถั่วลิสง ผักชีฝรั่ง ช็อกโกแลต
- อาหารที่มีแทนนิน (Tannins) เช่น องุ่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง
- อาหารที่มีไฟเตต (Phytates) หรือกรดไฟติก (Phytic Acid) เช่น ข้าวกล้อง ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี
เคล็ดลับการเพิ่มธาตุเหล็กในอาหาร
- กินอาหารเสริมธาตุเหล็กในขณะท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่ แต่การกินอาหารเสริมธาตุเหล็กในขณะท้องว่างบางคน อาจทำให้ปวดท้อง จึงควรกินพร้อมกับอาหารเพื่อป้องกันอาการปวดท้อง
- กินอาหารเสริมธาตุเหล็กพร้อมกับวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น จึงควรกินอาหารเสริมธาตุเหล็กคู่กับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น น้ำส้มคั้น น้ำมะนาวคั้น
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารเสริมธาตุเหล็กคู่กับยาลดกรด ยาลดกรดที่ช่วยบรรเทาอาการเสียดท้องอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กได้ ดังนั้น ควรกินอาหารเสริมธาตุเหล็กหลังจากกินยาลดกรดประมาณ 2-4 ชั่วโมง
สำหรับผลข้างเคียงของอาหารเสริมธาตุเหล็ก คือ อาจทำให้อุจจาระเป็นสีดำหรืออาจทำให้บางคนมีอาการท้องผูก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย ดังนั้น คุณหมออาจแนะนำให้กินอาหารที่มีเส้นใยสูงเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
สุขภาพดีได้ แค่เริ่มจากการควบคุมอาหารที่ควรกิน และไม่ควรกิน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากที่สุด ไม่เพียงลดความเสี่ยงการเป็นเลือดจางเท่านั้น ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคอื่น ๆ ได้ด้วย ดังนั้น ควรใส่ใจเรื่องอาหารที่กินในแต่ละมื้อ จะได้ลดโอกาสการเป็นโณคร้ายโดยไม่รู้ตัว
วิธีลดคอเลสเตอรอล ไขมันในเลือด
8 ช่วงเวลาที่ควรดื่มน้ำ
ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ควบคุมความดัน และน้ำตาลในเลือด