ลดพุงด่วนใน 7 วัน กับ 7 วิธีลดพุงให้แบนราบ
ลดน้ำหนัก 26 พ.ค 65
ลดพุงด่วนใน 7 วัน อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้ แค่เริ่มต้นจัดระเบียบวิธีการกิน ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเฉพาะจุด ดังนั้น ใครอยากลดพุง แบบปลอดภัยต้องนำวิธีเหล่านี้ไปใช้
ลดพุงด่วนใน 7 วัน กับ 7 วิธีลดพุงให้แบนราบ
วันที่ 1 :: ลดแป้ง ลดน้ำตาล ลดเค็ม ลดอาหารรสจัด
เมนูอาหารต่าง ๆ ที่มีรสเค็ม หวาน มัน หรืออาหารรสจัดจ้าน เป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ้วน ตัวบวม น้ำหนักขึ้น พยายามลดให้หมด หรือลดให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้น ใครที่จำเป็นต้องสั่งอาหารนอกบ้าน ก่อนสั่งอาหารทานเน้นให้พ่อครัว แม่ครัวปรุงให้น้อยที่สุด หรือเลือกเมนูแคลอรี่น้อย เน้นเมนูย่าง นึ่ง ต้มเบา ๆ ดีกว่า
วันที่ 2 :: เน้นโปรตีน ไขมันน้อย และผักผลไม้ (หวานน้อย)
ถ้าเป็นไปได้ ควรทำอาหารทานเองดีกว่า โดยใน 1 มื้อแบ่งสัดส่วนในการทานเป็น 2:1:1 กำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสม ผัก 2 ส่วน ข้าวหรือแป้ง 1 ส่วน และเนื้อสัตว์ 1 ส่วน เน้นไปที่ผักผลไม้มากกว่า 50% ที่เหลือเป็นโปรตีนไขมันน้อย เช่น อกไก่ เนื้อปลา อาจจะเสริมด้วยเห็ดเพื่อเพิ่มโปรตีนคลีน ๆ ให้กับร่างกาย
วันที่ 3 :: ให้ดื่มน้ำเปล่าแทนการดื่มน้ำหวาน
เมนูน้ำหวาน หรือคาเฟอีนที่ชอบดื่มในทุก ๆ วัน ต้องหยุดแล้วล่ะ ถ้าต้องการลดพุงให้ได้ภายใน 7 วัน ด้วยการดื่มน้ำเปล่าแทนหรือน้ำผลไม้คั้นสด เช่น น้ำส้ม แอปเปิ้ล ต้องไม่ผ่านการปรุงแต่ง นอกจากลดน้ำตาลที่เป็นสาเหตุของพุงย้วยแล้ว ยังช่วยในเรื่องระบบการขับถ่ายด้วยนะ
วันที่ 4 :: งดมื้อดึกเด็ดขาด
สาเหตุที่ทำให้เกิดพุงมากที่สุด คือ การทานขนมในตอนกลางคืน โดยเฉพาะน้ำอัดลม ของหวาน ขนมกรุบกรอบ ยิ่งดูหนังและทานขนมไปด้วย ช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานมากขึ้น จนเผลอทานในปริมาณที่มาก ดังนั้น หยุดทานอาหารในตลอดกลางคืน และตอนดูหนัง หากรู้สึกหิวให้ดื่มน้ำเปล่า หรือนมโปรตีนเพื่อลดความอยากอาหาร ทางที่ดีในตู้เย็นควรมีแต่อาหารที่ดี มีประโยชน์ ยิ่งอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ลดพุงต้องใส่ใจเรื่องอาหารเป็นพิเศษ
วันที่ 5 :: งดสังสรรค์
ไม่ว่าเพื่อนจะชวนไปปาร์ตี้ที่ไหน ต้องรู้จักปฏิเสธ หยุดทานข้าวนอกบ้านแล้วทำอาหารทานเองภายในบ้านดีกว่า จะทำให้เรารู้ว่า ควรปรุงเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้เกินปริมาณ ไม่เพียงแต่เราสามารถลดพุงได้แล้ว ยังประหยัดเงินได้ด้วยนะ
วันที่ 6 :: ออกกำลังกาย บริหารหน้าท้อง
ในข้อนี้ควรทำทุกวัน แต่ถ้าไม่มีเวลาว่าง ใน 7 วัน ออกกำลังกายอย่างน้อย 2 วันหลังเลิกงาน หรือก่อนนอน 30 นาทีก็ได้ วันละ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เน้นหน้าท้อง เช่น ซิตอัพ (ใครปวดหลังข้ามไป) แพลงกิ้ง ยกขาเกร็งหน้าท้อง ฯลฯ
ซิทอัพ :: ช่วยบริหารกล้ามเนื้อได้หลายส่วน ได้แก่ คอ หน้าอก กล้ามเนื้อข้อต่อสะโพก และหลังส่วนล่าง ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้เป็นอย่างดี
แพลงกิ้ง :: ช่วยเสริมสร้างระบบการเผาผลาญ และลดไขมัน โดยเป็นการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องที่เรียกว่า Transversus abdominis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อบริเวณท้องชั้นในที่มีหน้าที่เสมือนผ้ารัดท้องเอาไว้ เพื่อช่วยพยุงอวัยวะภายใน ช่วยจัดแนวกระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวตรง และยังช่วยทรงตัวเวลาเดินอีกด้วย
ยกขาเกร็งหน้าท้อง :: นั่งหลังตรงบนเก้าอี้ และยกขาทั้ง 2 ขึ้นลงสลับกัน มือประสานจับกันไว้ด้านหน้า ตอนทำพยายามนั่งให้หลังตรงและเกร็งหน้าท้องไปด้วย ท่านี้นอกจากจะช่วยลดหน้าท้องแล้วยังช่วยลดต้นขาให้กระชับยิ่งขึ้นอีกด้วย
วันที่ 7 :: ทานอาหารที่ทำให้ถ่ายสะดวก
การปรับระบบขับถ่ายเป็นเรื่องสำคัญ และจากการปรับเมนูอาหารที่ทานมาตลอด 6 วัน ก็สามารถช่วยในเรื่องขับถ่ายได้บ้าง ดังนั้นเราต้องรีดอะไรที่อยู่ในท้องของเราออกไปให้ได้มากที่สุด ใครที่ยังขับถ่ายไม่ดีพอ แนะนำทานโยเกิร์ต นมเปรี้ยว ลูกพรุน นม กล้วย แต่อย่าทานมากเกินไป ที่สำคัญอย่าทานมะขามเปรี้ยว หรือของดองเด็ดขาด เพราะจะทำให้ท้องเสียแทน
หากใครสามารถทำตามอย่างเคร่งครัดได้ตลอด 7 วัน ช่วยลดพุงได้แน่นอน ทำให้หน้าท้องแบนราบ ไปออกงานใส่ชุดสวย ๆ ไม่ต้องอายใครแล้วล่ะ และหากคุณทำต่อเนื่อง 1 เดือน ไม่เพียงพุงลดได้เท่านั้น ยังทำให้รูปร่างกระชับขึ้น สุขภาพดีด้วย ไม่เชื่อต้องลองทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ข้อดี ข้อเสียทุเรียน กินอย่างไรให้ปลอดภัย
ลดน้ำหนัก งดข้าวเย็น สุขภาพเสียหนัก
รับมืออาการเปลี่ยนแปลง ป้องกันโรค